เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2564 มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเย็นวานนี้ (11 มิ.ย.) เกิดฝนตกหนักลงในพื้นที่ ต.โยธะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เป็นเวลา 30 นาที ซึ่งเป็นที่ดีใจของชาวบ้านเป็นอย่างมาก
เนื่องจากปลัดขิก หรือศิวลึงค์ ที่ปั้นไว้เพื่อขอฝน ให้พรสมใจหวัง จากการสอบถามพูดคุยกับทาง นายชำนาญ แก่นทองแดง อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.โยธะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
ได้เล่าว่า วันนี้ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก เป็นเวลานานกว่า 30 นาที ซึ่งถือว่าการปั้นปลัดขิกขอฝน หรือการตั้งศิวลึงค์ ตามที่คนเฒ่าคนแก่ได้เคยกระทำกันมานับแต่โบราณนั้น ยังคงมีความศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่ออยู่จริง ๆ
สำหรับ “ศิวลึงค์” หรือ “ปลัดขิก” ดังกล่าว นี้มีขนาดฐานกว้าง 1.75 เมตร / สูง 1.93 เมตร เมื่อฝนตกลงมามากๆ ก็จะชะล้างละลายดินที่ปั้นลงไปกองอยู่mujพื้นดินเอง เพราะหากฝนตกเยอะก็ยิ่งดีถือเป็นอาถรรพ์ของศิวลึงค์ที่ปั้นขึ้น
ซึ่งระหว่างการปั้น ก็ได้มีการประกอบพิธีจุดธูป 16 ดอก บูชาขอเจ้าที่เจ้าทางในบริเวณนี้เพื่อทำการปั้นด้วย พร้อมกับได้ภาวนาร้องขอ เทวดา 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน ขอองค์อินทร์ทั้งหลายลงมาดลบันดาลให้ฝนโปรยลงมา เพราะตอนนี้มันแห้งแล้งเหลือเกินไม่มีน้ำจะใช้ ชาวนาเดือดร้อนไม่มีน้ำทำนากัน
ขณะก่อนหน้านี้หลังจากปั้น “ศิวลึงค์” หรือ “ปลัดขิก” สำเร็จแล้ว บรรดาคอหวยเซียนเลขต่างมาดูเลขที่สลักเข้าไว้ที่โคนของ “ศิวลึงค์” หรือ “ปลัดขิก” โดยระบุเป็น เลข 193 และ เลข 175 ซึ่งทำให้เลขดังกล่าวขายดิบขายดี
ทางด้าน พ่อค้าแม่ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ต่างยิ้มดีใจที่ลอตเตอรี่ขายดี หลังจากเกิดกระแสข่าวศิวลึงค์ขอฝนดังไปทั่ว ทำให้มีชาวบ้านมาหาซื้อเลขที่เขียนสลักไว้บนศิวลึงค์ขอฝนกันเป็นจำนวนมาก ทั้งเลข 193 และเลข 175 ขายดิบขายดีจนเกลี้ยงแผง
แต่ในขณะเดียวกันบนโลกออนไลน์ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ กับเรื่องดังกล่าวไปในแต่ละมุม มีทั้งชื่นชม สนุกสนาน ขำ แต่ก็มีบางส่วนที่บอกว่าสิ่งดังกล่าวไม่เหมาะสมที่จะนำมาตั้งไว้บนถนน เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นอันตรายแก่ผู้ขับขี่
ทางด้าน นายชำนาญ ได้ออกมาโต้ประเด็นดราม่าดังกล่าวว่า วอนสังคมอย่าดราม่าคับ ทั้งเรื่องความเชื่อของชาวบ้าน และประเด็นการเกิดอุบัติเหตุบนถนนที่ศิวลึงค์ที่สร้างขึ้นไม่ได้กีดขวางการจราจรแต่อย่างใด เพราะตั้งอยู่บริเวณแยกที่เป็นทางตัน