ภาพวงจรปิดจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Tum Zuapp นำมาโพสต์ไว้ พร้อมกับระบุข้อความว่า รถจอดไม่มีคนขับ จอดใส่เกียร์ดึงเบรกมือ มันจะไหลไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ ดันรถอีกคันขึ้นที่กั้น 2 อัน ดันรั้วพัง เป็นไปได้ยังไง งงมากกกกกกกก #ออมบุญกู้ชีพสายปั้น โดยภาพดังกล่าววถูกแชร์ต่อในโลกอออนไลน์ และมีคนสนใจเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เหตุเกิดที่ลานจอดรถแห่งหนึ่ง ในซอยมังกร-นาคดี อำเภอเมืองสมุทรปราการ เมื่อเช้าวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา
จาการสอบถามไปยัง นายภาคภูมิ ปรีเลิศ อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนนำรถคันดังกล่าว เป็นรถตู้โตโยต้าสีขาว ทะเบียน กต 4955 พะเยา มาสแตนด์บายเพื่อรอเหตุ ก่อนที่จะเข้าบ้านช่วงเวลาตี 1 ตามปกติ จนสายอีกวันมาดูรถ เนื่องจากน้องที่ออกเวรด้วยกันลืมแก้วน้ำไว้ และเกรงว่าน้ำในแก้วจะหก จึงเดินทางมาที่จอดรถ พบว่าที่จอดรถว่างไม่มีรถ ตกใจว่ารถหายไปไหน จึงไขประตูเข้าไปดู พบว่ารถไหลไปชนรถอีกคันทะลุที่จอดลงไปในพงหญ้า จึงงงว่ารถจอดใส่เกียร์ ดึงเบรกมือ ตัดระบบไฟ ไม่น่าจะเป็นไปได้ จึงยังเป็นคำถามว่ารถมันไหลไปได้อย่างไร เพราะรถไม่ได้สตาร์ตเครื่อง ไม่มีคนขับ หากท่านใดมีคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ช่วยบอกตนด้วย
“ส่วนเจ้าของรถคู่กรณี ก็งงกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ได้รับผิดชอบนำรถคู่กรณีเข้าศูนย์ซ่อมไปแล้วในวันนี้ สำหรับรถคันนี้ซื้อมาได้ประมาณ 1 ปี จากน้องที่อยู่พะเยา โดยเดิมทีรถคันนี้เป็นรถของโรงพยาบาลมาก่อน ซื้อมาทำใหม่เป็นรถพยาบาลของมูลนิธิร่วมกตัญญู แล้วก็ใช้มาจนถึงปัจจุบัน ส่วนสิ่งลี้ลับผมก็ไม่ทราบ ถ้ามีจริงก็ขอให้ช่วยคุ้มครองให้ปลอดภัย ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และอย่ามีอันตรายกับตัวเองและทีมงาน จะยังใช้งานอยู่ ไม่ขาย แต่ตอนนี้ยังไม่กล้าขับ” นายภาคภูมิ กล่าว
จากการสอบถาม พ.จ.ท.อุดร บุญช่วยแล้ว ผู้ดูแลสถานที่เช่าให้จอดรถ เล่าให้ฟังว่า เมื่อเห็นภาพจากกล้องวงจรปิด ก็ยังงงอยู่ว่า รถเคลื่อนตัวไปได้อย่างไร จากการสอบถามเจ้าของรถตู้บอกว่าใส่เกียร์ 1 ไว้ แต่ทำไมรถถึงเคลื่อนตัวไปได้ ทั้งๆ ที่ไม่มีคนขับ เลยสอบถามช่างซ่อมรถยนต์ เขาบอกว่าไดสตาร์ตอาจจะเกิดการช็อตก็ได้ เครื่องไม่ติด แต่ก็เกิดการช็อตๆ หยุดๆ จึงทำให้รถมีแรงดันไปเรื่อยๆ ส่วนรถเก๋งไม่แน่ใจว่าใส่เกียร์ p ไว้หรือเปล่า
และในภาพจะเห็นว่ามีแนวปูนกั้นรถเก๋งอยู่ด้านหลัง แต่ก็ถูกแรงดันของรถตู้ดันจนรถเก๋งถอยหลังเข้าไปในพงหญ้า รถได้รับความเสียหายเล็กน้อยทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งฝ่ายรถเก๋งก็ไม่ติดใจ เจ้าของรถที่ไหลไปชนก็ยินดีซ่อมให้ และเพื่อความมั่นใจว่าไม่มีคนเข้าไปขับรถตู้ จึงได้เปิดกล้องวงจรปิดดูทุกตัว ก็ไม่พบว่ามีคนขับแต่อย่างใด แต่หากมองในมุมของความเชื่อ ในเรื่องวิญญาณได้สอบถามเจ้าของรถตู้มูลนิธิว่าเคยไปรับคนตายมาหรือไม่ เจ้าของรถตู้บอกว่าไม่เคยรับคนตาย รับแต่คนเจ็บ
“แต่จะว่าไปแล้ว เขาก็เล่ากันว่าเจ้าที่ที่นี่แรง หลายคนมาเช่าที่มาทำธุรกิจ มักจะฝันว่ามีคนใส่ชุดขาวมาบอกหวยเป็นประจำ อย่างคนงานมาทำงานก่อสร้างมาถึง เขาก็จุดธูปบอกกล่าวเจ้าที่ งวดนั้นก็ถูกหวยไปหลายหมื่น แต่ทุกอย่างก็อยู่ที่ความเชื่อของแต่ละคน” พ.จ.ท.อุดร กล่าว ขณะที่ชาวบ้าน บอกว่าเรื่องนี้ไม่เชื่อก็อย่าไปลบหลู่ พร้อมสอบถามถึงทะเบียนรถตู้คันเกิดเหตุ เพื่อจะเอาไปลุ้นหวยกันในวันที่ 1 ต.ค.นี้